เครื่องฟอกอากาศรุ่นล่าสุดจาก Dyson มาพร้อมกับตัวกรองที่ประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น กระจายอากาศได้มากกว่ารุ่นก่อนหน้าถึง 2 เท่า และยังสร้างมาตรฐานใหม่ในเรื่องความเงียบขณะทำงาน นำเสนอมิติใหม่ของเครื่องฟอกอากาศภายในบ้าน

Dyson เปิดตัวเครื่องฟอกอากาศรุ่นล่าสุด Dyson Purifier Big+Quiet Formaldehyde ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ โดยเครื่องรุ่นล่าสุดนี้ถูกออกแบบมาสำหรับพื้นที่ขนาดใหญ่ โดยใช้นวัตกรรมที่ Dyson คิดค้นขึ้นมาใหม่ทำให้สามารถกระจายลมบริสุทธิ์ได้ไกลถึง 10 เมตร ซึ่งนำมาใช้งานร่วมกับตัวกรองรุ่นใหม่ที่ดักจับไนโตรเจนไดออกไซด์ (NO2) ได้ดีขึ้น 3 เท่า และเซ็นเซอร์คาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) นอกจากการกระจายลมที่ทรงพลังแล้ว Dyson Purifier Big+Quiet Formaldehyde ยังได้รับการออกแบบมาให้ทำงานโดยสร้างเสียงรบกวนน้อยที่สุดเพียง 56 เดซิเบล ทำให้ Dyson Purifier Big+Quiet Formaldehyde เป็นเครื่องฟอกอากาศที่เงียบที่สุดแต่ทรงพลังที่สุดของ Dyson

Dyson Purifier Big+Quiet Formaldehyde  เป็นผู้นำ Dyson เข้าสู่เครื่องฟอกอากาศสำหรับพื้นที่ขนาดใหญ่ โดยได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อฟอกอากาศอย่างมีประสิทธิภาพโดยสร้างเสียงรบกวนน้อยที่สุด และที่สำคัญสามารถฟอกอากาศในห้องขนาดใหญ่ได้อย่างทั่วถึง1 ด้วยการกระจายอากาศอันทรงพลังที่ไปไกลถึง 10 เมตร ทำให้มั่นใจได้ว่าอากาศสะอาดจะกระจายไปยังทุกซอกทุกมุม อีกทั้งยังทำงานอย่างเงียบสนิทแม้ตั้งค่าระดับสูงสุด ดังนั้นคุณจึงสามารถบอกลาเครื่องฟอกอากาศที่มีทั้งเสียงดังรบกวนและการกระจายอากาศที่ไร้ประสิทธิภาพไปได้เลย” แมท เจนนิงส์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิศวกรรม ผลิตภัณฑ์เครื่องฟอกอากาศ ของ Dyson กล่าว

Cone Aerodynamics คิดค้นขึ้นใหม่โดย Dyson สามารถกระจายอากาศในพื้นที่กว้างถึง 100 ตารางเมตร: Dyson Purifier Big+Quiet Formaldehyde นับเป็นก้าวใหม่ที่สำคัญของเทคโนโลยีการฟอกอากาศ โดยวิศวกรของ Dyson ได้เล็งเห็นถึงปัญหาเกี่ยวกับการกระจายอากาศในห้องขนาดใหญ่ ซึ่งโดยทั่วไปแล้วเครื่องฟอกอากาศขนาดใหญ่จะกระจายอากาศขึ้นด้านบน แต่เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า Dyson ได้พัฒนาระบบกระจายอากาศแรงดันต่ำแบบใหม่ที่ประหยัดพลังงาน ซึ่งก็คือการกระจายลมออกไปด้วยนวัตกรรม Cone Aerodynamics

ระบบการกรอง 3 ชั้นที่มีการปิดผนึกอย่างแน่นหนา

เช่นเดียวกับเครื่องฟอกอากาศทั้งหมดของ Dyson เครื่องฟอกอากาศ Dyson Purifier Big+Quiet Formaldehyde มีระบบกรองที่ปิดผนึก
แน่นหนาด้วยมาตรฐาน HEPA เกรด H13 ทำให้มั่นใจได้ว่าอากาศบริสุทธิ์เท่านั้นที่จะกระจายกลับเข้ามาในห้อง นอกจากนี้วิศวกรของ Dyson ได้ยกระดับประสิทธิภาพการกรองไปอีกขั้น ด้วยการปรับขนาดตัวกรองทั้ง 3 ชั้น และพัฒนาอายุการใช้งานของตัวกรอง

  1. ตัวกรองมาตรฐาน HEPA เกรด H13 ทำจากไมโครไฟเบอร์บอโรซิลิเกตยาว 21 เมตร พับซ้อนกันได้ 459 ทบ (ทำให้ใหญ่กว่ารุ่นก่อนหน้า 8 เท่า และมีพื้นที่เทียบเท่าเตียงคิงไซส์ 2 เตียง หรือกระดาษ A4 127 แผ่น) สามารถดักจับมลพิษได้ถึง 99.95% รวมถึงฝุ่นและสารก่อภูมิแพ้ที่มีขนาดเล็กถึง 0.1 ไมครอน โดยตัวกรองขนาดใหญ่มีอายุการใช้งานได้นานถึง 5 ปี และสามารถเปลี่ยนแยกกับตัวกรองคาร์บอนได้ ซึ่งเป็นการช่วยลดขยะที่ไม่จำเป็น
  2. ตัวกรอง K-Carbon ตัวใหม่ดักจับก๊าซต่าง ๆ โดยเฉพาะไนโตรเจนไดออกไซด์ (NO2) ซึ่งถูกปล่อยออกมาจากกิจกรรมต่าง ๆ เช่น
    การทำอาหารหรือได้รับมาจากสภาพแวดล้อมภายนอก เช่น การจราจรบนท้องถนนในบริเวณใกล้เคียง โดยตัวกรอง K-Carbon สามารถดักจับไนโตรเจนไดออกไซด์ (NO2) ได้มากกว่าตัวกรองรุ่นก่อนหน้าถึงสามเท่า เนื่องจากโพแทสเซียมคาร์บอเนตจับตัวกับอนุภาคไนโตรเจนไดออกไซด์ (NO2) ก่อตัวเป็นพันธะเคมีที่แข็งแรง ทำให้สามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการดักจับได้
  3. ตัวกรองเร่งปฏิกิริยาออกซิเดชั่นแบบคัดเลือกของ Dyson (SCO) มีการเคลือบผิวที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะที่มีโครงสร้างเดียวกับแร่ Cryptomelane โดยช่องขนาดเท่าอะตอมหลายพันล้านท่อจะสลายโมเลกุลฟอร์มาลดีไฮด์ ให้กลายเป็นน้ำและก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ในจำนวนเพียงเล็กน้อย จากนั้นนำออกซิเจนจากอากาศข้างนอกเข้ามาหมุนเวียนเพื่อทำลายฟอร์มาลดีไฮด์อย่างต่อเนื่องโดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนตัวกรอง